พูดถึง ครีมมะหาด เราอยากรู้กันไหมละว่า มันมาจากไหน
ทำไมถึงฮิตกันเหลือเกิน แล้วเราจะหาซื้อได้ที่ไหน
อยากหาซื้อครีมมะหาดของแท้ มี อย.
สั้งซื้อได้ที่เว็ปนี้ค่ะ : http://www.khunyingshop.com
ที่มาของมะหาด จริงๆๆแต่ช้านานก็อยู่คู่กับบ้านเรามาสะนาน แต่ไม่เคยถูกค้นพบ เป็นสมุนไพรไทยที่คนอย่างเราๆๆมองข้ามไป แต่ล่าสุด แก่นมะหาด ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์มะหาด ได้ถูกค้นพบ และวิจัย โดยทาง เภสัชจุฬา ซึงรายละเอียดผลการวิจัย เป็นดังนี้
ผลการวิจัย
เภสัชศาสตร์ จุฬาฯ พบสูตรสมุนไพรไทย “แก่นมะหาด” ลดความเข้มของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง
มีผลทำให้ผิวขาวได้ ปลอดภัยและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
รศ.ดร.กิตติ
ศักดิ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ (ส.ก.18117 เข้าสวนฯปี 2514; OSK อีกท่านจากสกุลนี้
คือ อภิรักษ์ ลิขิตวิทยาวุฒิ OSK112) และ รศ.ดร.ภาคภูมิ เต็งอำนวย
อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งศึกษาวิจัย
“สมุนไพรช่วยให้ผิวขาวจากแก่นมะหาด” เปิดเผยว่า
สารที่มีคุณสมบัติลดสีผิวและช่วยทำให้ผิวขาว
มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับกลไกการออกฤทธิ์ ทั้งนี้
สารที่ทำให้เกิดผิวขาวที่นิยมใช้มากที่สุดคือ สารขจัดสีผิว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนส
ซึ่งทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา ตั้งต้นของกระบวนการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานิน
สารเหล่านี้ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแพง
การศึกษาวิจัยสมุนไพรไทยจากแก่นมะหาด เพื่อพัฒนาสารที่ช่วยทำให้ผิวขาว
นับเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดการนำเข้าสารเหล่านี้จากต่างประเทศ
มะหาด
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Artocarpus lakoocha Roxb. เป็นต้นไม้ยืนต้นในวงศ์
Moraceae พบมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชาวบ้านนิยมนำแก่นมาต้มกับน้ำ และนำสิ่งที่สกัดได้มาทำให้เป็นผงแห้ง
เรียกว่า “ปวกหาด” ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิตัวตืด
การศึกษาวิจัยเรื่องสรรพคุณของมะหาดที่ทำให้ผิวขาวนั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2541
โดยทำการสุ่มตัวอย่างพืชสมุนไพรหลายชนิด
มาทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรสิเนสในหลอดทดลอง
จนกระทั่งพบว่าสารสกัดจากแก่นมะหาด ให้ผลยับยั้งเอนไซม์ชนิดนี้มากที่สุด
และมีความเป็นไปได้ที่จะนำสารชนิดนี้มาพัฒนา
เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ผู้วิจัยได้ทำการประเมินประสิทธิผลของสารสกัดจากแก่นมะหาดเป็นลำดับขั้น
เริ่มจากการศึกษาในหนูตะเภา และการทดลองใช้ในอาสาสมัคร
โดยช่วงแรกผู้วิจัยได้นำผงปวกหาดที่หาได้ง่ายมาทดลองใช้
เปรียบเทียบกับสารที่ช่วยทำให้ผิวขาวเป็นที่นิยมใช้อยู่ในปัจจุบันและมีราคา
แพง
ผลการทดลองพบว่าปวกหาดมีประสิทธิภาพในการลดความเข้มของ
สีผิวในหนูตะเภา ต่อมาได้ทำการศึกษาในอาสาสมัครจำนวน 4 คน
โดยทาสารสกัดจากแก่นมะหาดที่แขนวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์
และทำการวัดค่าความเข้มของสีผิวด้วยเครื่อง Mexameter
พบว่าแขนที่ทาด้วยสารสกัดจากแก่นมะหาดมีแนวโน้มให้ค่าความเข้มของสีผิวลดลง
นอกจากนี้ ยังไม่มีอาการแพ้หรือระคายเคือง
ในที่สุดผู้วิจัยได้ศึกษาในอาสาสมัครจำนวนมากขึ้น คือ 60 คน ในระยะเวลา 12
สัปดาห์ โดยแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน เป็นเพศหญิง อายุ
20–48 ปี มีสภาพผิวหนังปกติ จากการทาสารสกัดที่ต้นแขนของอาสาสมัครวันละ 2
ครั้ง เช้า-เย็น
เปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิก
ผลการทดลองพบว่ากลุ่มอาสาสมัครที่ทาด้วยสารสกัดจากมะหาด
จะมีผิวขาวขึ้นเรื่อย ๆ ความขาวของสีผิวจะเห็นผลในระยะเวลาเพียง 4 สัปดาห์
และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญตามระยะเวลาที่ทำการทดลอง นอกจากนี้
ยังไม่พบอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวแต่อย่างใด
ในขณะที่สารสกัดจากชะเอมและกรดโคจิกให้ผลในการทำให้ผิวขาวในระยะเวลาที่
นานกว่า คือ 10 และ 8 สัปดาห์ตามลำดับ
ปัจจุบันการศึกษาวิจัยใน
เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองพัฒนา
ตลอดจนศึกษาถึงประสิทธิภาพและความคงตัวเมื่ออยู่ในสูตรตำรับต่าง ๆ
เปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นที่เหมาะสมสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์
รวมถึงวิธีการสกัดสารจากแก่นมะหาดให้มีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น